วันพุธที่ผ่านมาเป็นเวลา 2 เดือนนับตั้งแต่ บาร์เซโลนา แพ้พ่ายให้ บาเยิร์นมิวนิค 8-2 ในแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่กระตุ้นให้เกิดวิกฤตที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร
นับตั้งแต่ เคอราร์ด ปิเก้ ประกาศว่า ” เราเข้าสู่การเปลี่ยนถ่ายแล้ว ” หลังจากความพ่ายแพ้ครั้งนั้นก็มีข้อถกเถียงมากมายเช่น บูโรแฟกซ์ ที่ขอออกจากทีมของ เลโอ เมสซี ,หลุยส์ ซัวเรซ ไปแอตเลติโกมาดริด และมีการโหวตไม่ไว้วางใจ ประธาน
การตัดสินใจครั้งแรกของ บาร์โทเมว เกิดขึ้นหลังจากความพ่ายแพ้ครั้งนั้นคือการปลดโค้ช กีเก้ เซเตียน และแทนที่เขาด้วยอดีตตำนาน โรนัลด์ คูมัน และ เซเตียนประกาศว่า เขาจะดำเนินการทางกฎหมาย กับสโมสรโดยไม่ได้รับการชดเชยสำหรับการจากไปของเขา
แม้จะมีความพยายามที่ดีที่สุดของสโมสร การมาถึง คูมัน ไม่ได้ทำให้เรื่องภายในดับลง กลายเป็นดังสงครามกลางเมือง บาร์เซโลนา เชื่อว่า เมสซี่ ไม่สามารถออกจากสโมสรได้อย่างถูกกฎหมายโดยไม่ต้องจ่ายค่าตัว แต่ เมสซี่ คิดเห็นไม่ตรงกัน
เกิดความขัดแย้ง 10 วัน ในที่สุด เมสซี่ ก็ประกาศว่าเขาจะไม่ ขึ้นศาลกับสโมสรที่เขารัก และจะอยู่ต่อ ตลอดเวลานั้น การเคลื่อนไหวเพื่อโหวตไม่ไว้วางใจต่อ บาร์โทเมว ได้ลายเซ็นตามเป้าหมาย และลงเอยที่การจากไปด้วยน้ำตาของ ซัวเรซ
“คุณไม่สมควรได้รับการปฏิบัติเช่นนั้น” เมสซี กล่าวอำลาเพื่อนสนิท “แต่ความจริงไม่มีอะไรทำให้ผมประหลาดใจอีกต่อไป ” ซึ่งนำมาสู่ขั้นตอนที่ บาร์โทเมว และผู้จัดโหวตยังคงดึงดันกันอยู่ โดยมีความเชื่อว่าลายเซ็นในคำร้องถูกปลอมแปลง เรารอดูว่าอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าเรื่องราวจะดำเนินไปอย่างไร
Credit : Marca and FC Barcelona fanpage