การพ่ายแพ้ อย่างน่าอัปยศอดสูของ บาร์เซโลนา 8-2 ต่อ บาเยิร์น มิวนิค ในคืนวันศุกร์ จะมีผลกระทบในทุกระดับของสโมสร แต่ตำแหน่งหนึ่งที่แทบจะรับประกันได้ว่าจะได้รับผลกระทบ คือเก้าอี้กุนซือ
กีเก้ เซเตียน สำหรับเขาแล้ว ในกรณีอย่างนี้ อาจนับจำนวนชั่วโมง ถอยหลัง
บาร์เซโลนา กำลังมองหาโค้ชคนใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นับมาหลังจากพ่ายแพ้ ลาลีกา แล้ว และตัวเต็งที่ข่าวเล่นกันคือ เมาริซิโอ ปอเช็ตติโน่ เป็นหนึ่งในชื่อที่กล่าวถึงก่อนที่ เซเตียน จะเข้ารับหน้าที่นี้ด้วยซ้ำ
ส่วนชื่ออื่นบนโต๊ะคือ โรนัลด์ คูมันน์ แต่ปัจจุบันชาวอาร์เจนตินาอยู่ในตำแหน่งโพลที่จะได้รับการแต่งตั้ง
การพ่ายเกม บาเยิร์น เป็นการยืนยันถึงฝันร้ายที่เลวร้ายที่สุดของ บาร์เซโลนา เมื่อพวกเขาจบฤดูกาลโดยไม่มีถ้วยรางวัลเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี และเห็นได้ชัดว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจำเป็นต้องเกิดขึ้นที่ คัมป์นู ในช่วงซัมเมอร์นี้
เจ็ดเดือนหลังจากตัดสินใจไล่ออก เออร์เนสโต บัลเบร์เด้ ออกไป เป็นที่ชัดเจนว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นความผิดพลาด
เป็นเรื่องจริงที่โครงงานของ บัลเบร์เด้ เริ่มแสดงอาการเอื่อยเฉื่อยเนื่องจากการยอมแพ้ของโค้ช ทำให้ผู้เล่นรู้สึกไม่ดีในสิ่งที่เกิดขึ้นในการฝึกซ้อม และการโชว์ผลงานที่ไม่ดี ที่เกิดขึ้นในสนาม
มันเป็นความพ่ายแพ้ในรอบรองชนะเลิศ ซูเปอร์ โคปา ที่ทำให้ บาร์โธมิว ตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้กุมบัลลังก์ บาร์เซโลนา
เซเตียน เดินทางมาถึง คัมป์นู พร้อมกับสัญญาว่าจะกลับไปสู่อดีตที่เป็นความหวังสำหรับแฟน ๆ ส่วนใหญ่ แต่ความจริงก็ค่อยๆกลืนกินโค้ชวัย 61 ปี
สิ่งที่ชี้ความน่าผิดหวัง หนึ่งในสัญญาณที่ชัดเจนของปัญหา คือ บาร์เซโลนา ถูกโค่นโดย บิลเบา ในโคปาเดลเรย์
แต่สิ่งที่แย่ที่สุดคือ เซเตียน ล้มเหลวในการสื่อสารกับทีมที่ไม่เข้าใจ แนวทางหรือความมุ่งหมายของเขา
เกิดระยะห่างกับผู้เล่นประสบการณ์สูงของทีมอย่างชัดเจน และคำพูดของ ลิโอเนล เมสซี หลังจากพ่ายแพ้ โอซาซูน่า เป็นเครื่องพิสูจน์
เซเตียน เองรู้สึกกดดันอยู่แล้ว หลังจากพ่ายแพ้ศึก ลาลีก้า โดย บาร์โธมิว ต้องเข้ามาแทรกเพื่อให้สามารถคุยกับ เมสซี่ เพื่อแก้ไขความสัมพันธ์ของพวกเขา
สิ่งที่เกิดขึ้น คือ การพักรบระหว่างโค้ช และกัปตันก่อน แชมเปี้ยนส์ลีก แต่อย่างที่ เมสซี่ พูดเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไม่มีทางที่ บาร์เซโลนา จะคว้ารางวัลใหญ่ที่สุดของยุโรปในแบบที่พวกเขาเป็นอยู่ตอนนี้
Credit : Marca and FC Barcelona fanpage