บาร์เซโลน่า เปิดคัมป์ นู รับการมาเยือนศึกเอล กลาซิโก้ ของ เรอัล มาดริด โรนัลด์ คูมัน ส่งดาวรุ่งอย่าง กาบี้ และ อันซู ฟาติ ลงตัวจริงสู้กับ วินิซิอุส ของราชัน ท่ามกลางแฟนบอล 86,442 คน
20 นาทีแรกสู้กันอยู่ในแดนกลางจน วินิซิอุส เล่นแบบลมกรดโดนมิงเกวซ่าขวางในเขตโทษ แต่กรรมการนิ่งไม่ให้จุดโทษ แข้งราชันมีโวยให้เกมเริ่มเดือด
โอกาสทองของ บาร์ซ่า เมื่อเมมฟิส เดปาย จ่ายตัดเข้ากลาง อันซูแตะให้ปีกจำเป็นอย่างเดสท์ เข้ายิงโล่งๆ ข้ามคานชนิดพลาดได้ยังไงในนาทีที่ 24
Goal ! จากจังหวะหน้าเขตประตูมาดริด โรดริโก้รับบอลก่อน จ่ายให้อลาบาที่ขึ้นสูงมายิงเต็มตีนให้ ราชันนำก่อน 0-1 นาทีที่ 32
เกือบเอาคืนเร็ว ! บาร์ซ่าได้เตะมุมจาก เมมฟิส เดปาย โยนเข้าหัวปิเก้ที่ขั้นโหม่งไปเสาสองเฉี่ยวไปนิดเดียว
ห้านาทีสุดท้าย เรอัลยังบุกได้น้ำได้เนื้อกว่า นาทีที่ 44 อันซู ฟาติได้บอลหน้าปากประตูก่อนได้ส่องติดบล็อกอลาบาน่าเสียดาย
ทดเวลานาทีเดียว จบครึ่งแรก บาร์ซ่า 0-1 เรอัล มาดริด
ครึ่งหลัง คูมัน แก้เกมด้วยการส่ง คูตินโญ่ ลงมาแทนบ่อน้ำมัน มิงเกวซ่า ถอยเดสท์กลับเข้าที่
บาร์ซ่า มีโอกาสสองครั้งติดโดยคูตินโญ่ และ อันซู ฟาติ แต่ก็ยังไม่ได้
เกมรุกบาร์ซ่าวูบวาบขึ้น แต่เกมรับของเรอัล มาดริด ก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน นาทีที่ 57 ปิเก้โดนใบเหลืองจากจังหวะที่ผู้เล่นประท้วงเอาแฮนด์บอลจาก โทนี่ โครส แต่กรรมการมองว่าเขาโดนเบียดจากด้านหลัง
นาทีที่ 61 โมดริชจ่ายสวยให้ เบนเซม่า ยิงแบบมีโอกาสน่าได้สุดๆ แต่แทร์ สเตเก้นก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง บาร์เซโลน่ายิงเข้ากรอบครั้งเดียว เป็นมาดริดที่มีโอกาสมากกว่าจนคูเล่ส์อึดอัด
นาทีที่ 71 บอลทะลุโล่งๆ มาถึงเบนเซม่าจะไขว้ยิงไม่ได้ ก่อนเพื่อนจะซ้ำแต่ก็ไม่ตรงกรอบ คูมัน จึงส่ง กุน อเกวโร่ มาแทนอันซู ฟาติ เพื่อหาประตูตีเสมอ
สิบห้านาทีสุดท้าย บาร์ซ่ายังเจาะเข้าทำโซนหลังของราชันได้ยาก คูมันจึงต้องใช้แผนสุดท้ายด้วยการส่ง ลุค เดอ ยอง แทน กาบี้ในนาทีที่ 85
ก่อนจบเกม นาทีที่ 94 ลูคัสได้ยิงนำให้ราชันเป็น 2 ลูก แต่อีก 2 นาที เดสท์มาแผลงฤทธิ์ท้ายเกมแอสซิสต์ให้ กุนเข้าฮอสได้ประตูปลอบใจ เอล กลาซิโก้หนนี้ บาร์เซโลน่า 1-2 เรอัล มาดริด